สินภูฮ่อมพบก๊าซธรรมชาติเพิ่ม เสริมความมั่นคงพลังงานของประเทศ

09 สิงหาคม 2567 18.44 น.
อ่าน 1,066 ครั้ง

 

 

นายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทพีทีทีอีพี เอสพี ลิมิเต็ด  ได้แจ้งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติว่าได้ดำเนินการเจาะหลุมประเมินผล PH-14 ของโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม และพบก๊าซธรรมชาตินั้น นับว่าเป็นข่าวดีด้านพลังงานของประเทศ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ป้อนให้กับโรงไฟฟ้าน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เพื่อสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างต่อเนื่อง 

บริษัทพีทีทีอีพี เอสพี ลิมิเต็ด  เป็นผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 1/2524/19 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข EU1 และผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 2/2522/17 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข E5N หรือโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและอุดรธานี ได้ดำเนินการผลิตก๊าซธรรมชาติ และก๊าซธรรมชาติเหลว โดยข้อมูล ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา มีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยประมาณ 95 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวเฉลี่ยประมาณ 200 บาร์เรลต่อวัน 

“เมื่อวันที่ 1ก.ค. 67 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการเจาะหลุมประเมินผล PH-14 ของโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อมตามแผนการดำเนินงาน และได้ขุดเจาะพบก๊าซธรรมชาติ  โดยในเบื้องต้นบริษัทฯ มีการประเมินอัตราการไหลของก๊าซธรรมชาติได้ที่ประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
ซึ่งส่งผลดีต่อประเทศที่มีแหล่งพลังงานเพิ่ม สามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงานได้ท่ามกลางสภาวะ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์พลังงานโลกในปัจจุบัน สร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จากแหล่งปิโตรเลียมนี้จะถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักสำหรับผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าน้ำพองที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งประเทศยังได้รับประโยชน์จากค่าภาคหลวง และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ต่อไปด้วย” อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติกล่าว

ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย ได้คำนึงถึงความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศมาโดยตลอด โดยในการดำเนินการเจาะหลุมผลิตปิโตรเลียมในครั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้กำชับให้บริษัทฯ ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ในการเฝ้าระวังผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ กลิ่น และเสียงรบกวน ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน และส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่น้อยที่สุด

- Advertisement -
- Advertisement -

RELATED

- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -

Lasted

  • ไทยออยล์คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จาก “Asian Excellence Award 2025”
    01 ก.ค. 2568 21.45 น.
  • Solis เปิดตัว โซลูชันอินเวอร์เตอร์ - แนะนำเทคโนโลยี AI ล่าสุด ในงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2025
    01 ก.ค. 2568 21.28 น.
  • EVme ร่วมกับ Benz พระราม 3 เปิดให้เช่า EQE และ EQS ผ่านแอปฯ EVme ก่อนตัดสินใจซื้อ
    01 ก.ค. 2568 21.10 น.
  • GPSC เปิดแผนศึกษา SMR เทคโนโลยี Gen IV ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions
    01 ก.ค. 2568 20.55 น.
  • GULF และ PTT Tank เซ็นสัญญา EPCC ร่วมกับ POSCO E&C และ CAZ พัฒนาท่าเรือก๊าซโครงการมาบตาพุด ระยะที่ 3
    01 ก.ค. 2568 20.40 น.

Most Viewed

  • "อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์" คว้าสุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี
    20 มิ.ย. 2566 21.47 น.
  • ‘ผลิต-ไฟฟ้าลาว’ มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตเด่น รับดีมานด์ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเพิ่ม
    03 พ.ค. 2566 13.56 น.
  • 54 ปี กฟผ. เดินหน้าผลิตไฟฟ้าสีเขียว รุกขยายโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อน
    01 พ.ค. 2566 09.50 น.
  • แม่ฮ่องสอน..สู่เมืองท่องเที่ยวสีเขียว ชู "โซลาร์ฟาร์มสมาร์ทกริด" พร้อมจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ววันนี้
    25 พ.ค. 2566 17.14 น.
  • 3 การไฟฟ้าจัดใหญ่ ครั้งแรกของโชว์สุดยอดนวัตกรรม ตอบโจทย์ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
    12 มิ.ย. 2566 17.47 น.